
ช่วงเช้าของวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2495 ท้องฟ้าเหนือพระนครมืดครึ้มด้วยเมฆฝน มีทีท่าว่าฝนซึ่งไม่ตกมานานนับแต่ช่วงเข้าพรรษาอาจจะตกได้ในวันนี้ พื้นที่หน้าพระราชวังดุสิตคลาคล่ำไปด้วยประชาชนชาวไทยที่มารอฟังข่าวพระประสูติการของเจ้าฟ้าพระองค์ใหม่ของไทย และในช่วงเย็นของวันเดียวกันนั้น ฝนที่แล้งมาตลอดฤดูก็เริ่มโปรยปรายลงมา และแล้วเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง ณ เวลา 17.45 น. นายแพทย์ที่ถวายการประสูติ ได้ประกาศด้วยความตื่นเต้นต่อที่ประชุม ณ พระที่นั่งอัมพรสถานว่า “ผู้ชาย” แทนที่จะเป็น “พระราชโอรส”
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกอบพระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่เจ้าฟ้าพระองค์ใหม่ เฉลิมพระนามว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ” เมื่อวันที่ 14 กันยายน พุทธศักราช 2495
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเริ่มการศึกษาที่โรงเรียนจิตรลดา เมื่อพระชนมายุ 4 พรรษา และเมื่อพระชนมายุ 14 พรรษา เสด็จฯ ไปทรงศึกษาต่อ ณ ประเทศอังกฤษ โดยทรงเข้ารับการศึกษาระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนคิงสมีด เมืองซีฟอร์ด แคว้นซัสเซกส์ ประเทศอังกฤษ และได้เสด็จฯ ไปทรงศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนมิลล์ฟิลด์ เมืองสตรีท แคว้นซัมเมอร์เซท ประเทศอังกฤษ โดยมีพระราชดำรัสลาประชาชนชาวไทยก่อนไปทรงศึกษาต่อว่า
“ข้าพเจ้ามีใจผูกพันกับประเทศชาติ และกับท่านทั้งหลายมาก เพราะข้าพเจ้าเป็นพลเมืองไทยคนหนึ่ง และท่านทั้งหลายต่างได้แสดงน้ำใจไมตรีต่อข้าพเจ้าตลอดมา ข้าพเจ้าจึงตระหนักว่า ในกาลหน้า ข้าพเจ้าจะมีหน้าที่ และจะต้องทำงานให้เป็นประโยชน์แก่บ้านเมืองและประชาชนให้จงได้ โอกาสที่ข้าพเจ้าจะออกไปศึกษา ณ ต่างประเทศนี้ ข้าพเจ้าจึงตั้งใจไว้อย่างแน่วแน่ว่า จะพยายามศึกษาเล่าเรียนโดยเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้เกิดความรู้และสติปัญญา นำมาใช้ในการทำนุบำรุงประเทศชาติ ให้เจริญก้าวหน้าและรุ่งเรืองไพบูลย์ยิ่งขึ้นไป”
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกอบพระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่เจ้าฟ้าพระองค์ใหม่ เฉลิมพระนามว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ” เมื่อวันที่ 14 กันยายน พุทธศักราช 2495
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเริ่มการศึกษาที่โรงเรียนจิตรลดา เมื่อพระชนมายุ 4 พรรษา และเมื่อพระชนมายุ 14 พรรษา เสด็จฯ ไปทรงศึกษาต่อ ณ ประเทศอังกฤษ โดยทรงเข้ารับการศึกษาระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนคิงสมีด เมืองซีฟอร์ด แคว้นซัสเซกส์ ประเทศอังกฤษ และได้เสด็จฯ ไปทรงศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนมิลล์ฟิลด์ เมืองสตรีท แคว้นซัมเมอร์เซท ประเทศอังกฤษ โดยมีพระราชดำรัสลาประชาชนชาวไทยก่อนไปทรงศึกษาต่อว่า
“ข้าพเจ้ามีใจผูกพันกับประเทศชาติ และกับท่านทั้งหลายมาก เพราะข้าพเจ้าเป็นพลเมืองไทยคนหนึ่ง และท่านทั้งหลายต่างได้แสดงน้ำใจไมตรีต่อข้าพเจ้าตลอดมา ข้าพเจ้าจึงตระหนักว่า ในกาลหน้า ข้าพเจ้าจะมีหน้าที่ และจะต้องทำงานให้เป็นประโยชน์แก่บ้านเมืองและประชาชนให้จงได้ โอกาสที่ข้าพเจ้าจะออกไปศึกษา ณ ต่างประเทศนี้ ข้าพเจ้าจึงตั้งใจไว้อย่างแน่วแน่ว่า จะพยายามศึกษาเล่าเรียนโดยเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้เกิดความรู้และสติปัญญา นำมาใช้ในการทำนุบำรุงประเทศชาติ ให้เจริญก้าวหน้าและรุ่งเรืองไพบูลย์ยิ่งขึ้นไป”

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งทรงพระเยาว์ มีพระอุปนิสัยโปรดความมีระเบียบวินัย และความสะอาดเรียบร้อยทั่ว ๆ ไป ไม่ทรงนิยมฝ่าฝืนหรือละเมิดระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ และได้ทรงแสดงความสนพระทัยในกิจการเกี่ยวกับกองทัพอยู่เสมอ
อีกทั้งพระองค์มีความสนพระทัยในการสะสมเครื่องยนต์กลไกต่าง ๆ โปรดการทอดพระเนตรหนังสือที่เกี่ยวกับการช่าง และการก่อสร้าง โดยทรงสะสมโมเดลรถคันเล็ก ๆ เช่น รถจี๊ป รถมอเตอร์ไซค์ รถทหารปิดและเปิดประทุน รถลาก รถตำรวจ ทรงเคยพระราชทานสัมภาษณ์แก่นิตยสารดิฉันถึงของสะสมไว้ว่า
“ตอนเด็ก ๆ ชอบเครื่องยนต์กลไก แล้วมันก็เป็นการแสดงวัฒนธรรมและพัฒนาการทางเทคโนโลยีอย่างหนึ่ง ของเล่นเมื่อเด็ก ๆ เท่าที่ยังเหลืออยู่ของเล่นสมัยนี้ก็มี แต่มันไม่เหมือนของเล่นเมื่อ 20 ปีก่อน มันก็เป็นไปตามสิ่งแวดล้อม”
พระราชจริยวัตรอีกประการของพระองค์เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ คือ โปรดงานนิพนธ์ต่าง ๆ เช่น ทรงพระราชนิพนธ์ เรื่องสั้น และบทกลอน เช่น พระราชนิพนธ์เรื่อง “น้ำท่วม” ซึ่งทรงพระราชนิพนธ์ไว้เมื่อพระชนมพรรษาเพียง 12 พรรษา และพระราชนิพนธ์ บทกลอนถวายพระพรในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พุทธศักราช 2515
อีกทั้งพระองค์มีความสนพระทัยในการสะสมเครื่องยนต์กลไกต่าง ๆ โปรดการทอดพระเนตรหนังสือที่เกี่ยวกับการช่าง และการก่อสร้าง โดยทรงสะสมโมเดลรถคันเล็ก ๆ เช่น รถจี๊ป รถมอเตอร์ไซค์ รถทหารปิดและเปิดประทุน รถลาก รถตำรวจ ทรงเคยพระราชทานสัมภาษณ์แก่นิตยสารดิฉันถึงของสะสมไว้ว่า
“ตอนเด็ก ๆ ชอบเครื่องยนต์กลไก แล้วมันก็เป็นการแสดงวัฒนธรรมและพัฒนาการทางเทคโนโลยีอย่างหนึ่ง ของเล่นเมื่อเด็ก ๆ เท่าที่ยังเหลืออยู่ของเล่นสมัยนี้ก็มี แต่มันไม่เหมือนของเล่นเมื่อ 20 ปีก่อน มันก็เป็นไปตามสิ่งแวดล้อม”
พระราชจริยวัตรอีกประการของพระองค์เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ คือ โปรดงานนิพนธ์ต่าง ๆ เช่น ทรงพระราชนิพนธ์ เรื่องสั้น และบทกลอน เช่น พระราชนิพนธ์เรื่อง “น้ำท่วม” ซึ่งทรงพระราชนิพนธ์ไว้เมื่อพระชนมพรรษาเพียง 12 พรรษา และพระราชนิพนธ์ บทกลอนถวายพระพรในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พุทธศักราช 2515
"วันเฉลิม สมเด็จแม่ ได้แต่คิด
ขอน้อมจิต รำลึกถึง คะนึงหา
พระคุณแม่ มากล้น เหลือคณนา
ลูกเกิดมา โชคดี มีแม่งาม
ไปเมืองไหน ถูกถาม ถึงนามแม่
ว่าสวยแท้ ราชินี แห่งสยาม
ควีนสิริกิติ์ จำขึ้นใจ ในพระนาม
ชมว่างาม เพริศพริ้ง ยอดหญิงไทย
แม่รักชาย ห่วงชาย ชายก็รู้
ชายจะสู้ สุดชีวา อย่าสงสัย
จะทำตัว ให้สม แม่วางใจ
จะรักไทย กู้ศักดิ์ศรี จักรีวงศ์
จะรักหญิง ที่เขา เข้าใจแม่
จะแน่วแน่ พุทธศาสน์ ถือพระสงฆ์
การสวดมนต์ ไหว้พระ จะดำรง
จะมั่นคง รักชาวไทย ไม่เสื่อมคลาย
ขอถวาย สมเด็จแม่ เพียงแค่นี้
จงโชคดี มีสุข ทุกข์จากหาย
อย่าคิดมาก ทำพระทัย ให้สบาย
เรื่องลูกชาย แม่อย่าเศร้า เขารักดี
ชายขอกราบ ลงที่ตัก พร้อมรักแท้
ชายรักแม่ สุดหัวใจ ชายไม่หนี
ชายจะเป็น กำลังใจ ป้องไพรี
มอบชีวี และเลือดเนื้อ เพื่อแม่เอย."
ขอน้อมจิต รำลึกถึง คะนึงหา
พระคุณแม่ มากล้น เหลือคณนา
ลูกเกิดมา โชคดี มีแม่งาม
ไปเมืองไหน ถูกถาม ถึงนามแม่
ว่าสวยแท้ ราชินี แห่งสยาม
ควีนสิริกิติ์ จำขึ้นใจ ในพระนาม
ชมว่างาม เพริศพริ้ง ยอดหญิงไทย
แม่รักชาย ห่วงชาย ชายก็รู้
ชายจะสู้ สุดชีวา อย่าสงสัย
จะทำตัว ให้สม แม่วางใจ
จะรักไทย กู้ศักดิ์ศรี จักรีวงศ์
จะรักหญิง ที่เขา เข้าใจแม่
จะแน่วแน่ พุทธศาสน์ ถือพระสงฆ์
การสวดมนต์ ไหว้พระ จะดำรง
จะมั่นคง รักชาวไทย ไม่เสื่อมคลาย
ขอถวาย สมเด็จแม่ เพียงแค่นี้
จงโชคดี มีสุข ทุกข์จากหาย
อย่าคิดมาก ทำพระทัย ให้สบาย
เรื่องลูกชาย แม่อย่าเศร้า เขารักดี
ชายขอกราบ ลงที่ตัก พร้อมรักแท้
ชายรักแม่ สุดหัวใจ ชายไม่หนี
ชายจะเป็น กำลังใจ ป้องไพรี
มอบชีวี และเลือดเนื้อ เพื่อแม่เอย."

เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ พระราชบิดาและพระราชมารดาทรงอนุญาตให้พระราชโอรสและพระราชธิดาทอดพระเนตรโทรทัศน์เฉพาะวันหยุดเรียน ถ้าบรรทมน้อยกว่า 9 ชั่วโมง ก็จะไม่ได้ทอดพระเนตร เช่นคืนวันพฤหัสบดีตอนเย็น วันศุกร์หรือวันเสาร์จะต้องบรรทมเร็วมาก ส่วนในตอนเช้าวันเสาร์และอาทิตย์ พระราชบิดาและพระราชมารดา มีพระราชประสงค์ให้พระองค์เสด็จออกกลางแจ้ง เพื่อได้อากาศและแสงแดดมากที่สุด และให้ออกพระกำลัง เช่นทรงว่ายน้ำจนถึงเวลาเสวย พระองค์ทรงเคยมีรับสั่งตัดพ้อกับพระราชมารดา ว่า “เป็นลูกแม่นี่ไม่มีความสุขเลย เพื่อน ๆ เขายังได้ดูทีวีมากกว่าชายเสียอีก”
ส่วนพระบรมชนกนาถก็ทรงอภิบาลอบรมพระราชโอรสอย่างใกล้ชิด คอยพระราชทานคำแนะนำ ตั้งคำถาม และพระราชทานอิสระทางความคิดและการทดลองต่าง ๆ อย่างที่เด็กพึงจะได้รับ ดังปรากฏในกระแสรับสั่งตอนหนึ่งถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขณะทรงพระเยาว์ความว่า
“ฉันพยายามให้ลูกชายของฉันค่อย ๆ สนใจในวิทยาศาสตร์ ทีละน้อย ๆ เขามีจรวดเด็กเล่นอยู่อันหนึ่ง ซึ่งฉันสอนเขาถึงความสำคัญของจรวด เขายิงจรวดไปยังเกาะในทะเลสาบเล็ก ๆ ของเขา แล้วก็พายเรือไปเอามา ฉันบอกเขาว่านักวิทยาศาสตร์กว่าจะทำอะไรสำเร็จก็ต้องทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย ความจริงมีบ่อยครั้งที่ฉันไม่เข้าใจลูกชายของฉันว่าเขาคิดอะไร เขามีรถยนต์เล็ก ๆ คันหนึ่ง เขาถอดเอาเครื่องยนต์ออกหมดโดยไม่สนใจว่ามันจะวิ่งได้หรือไม่ เอาหลังคาออก เครื่องชุบออกเสีย มันยังเล่นได้ดี ต่อมาเขาเอาล้อ และเครื่องยนต์ออกอีก ฉันถามเขาว่า แล้วจะทำอย่างไรต่อไป เขาตอบว่า ชายก็เดินไปสิ”
ส่วนพระบรมชนกนาถก็ทรงอภิบาลอบรมพระราชโอรสอย่างใกล้ชิด คอยพระราชทานคำแนะนำ ตั้งคำถาม และพระราชทานอิสระทางความคิดและการทดลองต่าง ๆ อย่างที่เด็กพึงจะได้รับ ดังปรากฏในกระแสรับสั่งตอนหนึ่งถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขณะทรงพระเยาว์ความว่า
“ฉันพยายามให้ลูกชายของฉันค่อย ๆ สนใจในวิทยาศาสตร์ ทีละน้อย ๆ เขามีจรวดเด็กเล่นอยู่อันหนึ่ง ซึ่งฉันสอนเขาถึงความสำคัญของจรวด เขายิงจรวดไปยังเกาะในทะเลสาบเล็ก ๆ ของเขา แล้วก็พายเรือไปเอามา ฉันบอกเขาว่านักวิทยาศาสตร์กว่าจะทำอะไรสำเร็จก็ต้องทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย ความจริงมีบ่อยครั้งที่ฉันไม่เข้าใจลูกชายของฉันว่าเขาคิดอะไร เขามีรถยนต์เล็ก ๆ คันหนึ่ง เขาถอดเอาเครื่องยนต์ออกหมดโดยไม่สนใจว่ามันจะวิ่งได้หรือไม่ เอาหลังคาออก เครื่องชุบออกเสีย มันยังเล่นได้ดี ต่อมาเขาเอาล้อ และเครื่องยนต์ออกอีก ฉันถามเขาว่า แล้วจะทำอย่างไรต่อไป เขาตอบว่า ชายก็เดินไปสิ”
[1] ประพัฒน์ ตรีณรงค์. วันประชาปิติ. กรุงเทพฯ: อำนวยสาส์น; 2520. 267 น.
[2] พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมป์. สยามมกุฎราชกุมาร. กรุงเทพฯ: พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมป์; 2517. 21 น.
[3] ละเอียด พิบูลย์สวัสดิ์. ประมวลพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ตั้งแต่ประสูติจนถึงวันสถาปนาเป็นองค์รัชทายาท. กรุงเทพฯ: ศูนย์ชุมชนห้วยขวาง; 2516. 336 น.
[4] สถาพรบุ๊คส์, ฝ่ายวิชาการ. ทศมินทรราชา มหาวชิราลงกรณ : ทูลกระหม่อมฟ้าชาย. กรุงเทพฯ: ฝ่ายวิชาการ สถาพรบุ๊คส์; 2562. 39 น.
[5] สถาพรบุ๊คส์, ฝ่ายวิชาการ. ทศมินทรราชา มหาวชิราลงกรณ : เสด็จพระราชสมภพ. กรุงเทพฯ: ฝ่ายวิชาการ สถาพรบุ๊คส์; 2562. 39 น.
[2] พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมป์. สยามมกุฎราชกุมาร. กรุงเทพฯ: พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมป์; 2517. 21 น.
[3] ละเอียด พิบูลย์สวัสดิ์. ประมวลพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ตั้งแต่ประสูติจนถึงวันสถาปนาเป็นองค์รัชทายาท. กรุงเทพฯ: ศูนย์ชุมชนห้วยขวาง; 2516. 336 น.
[4] สถาพรบุ๊คส์, ฝ่ายวิชาการ. ทศมินทรราชา มหาวชิราลงกรณ : ทูลกระหม่อมฟ้าชาย. กรุงเทพฯ: ฝ่ายวิชาการ สถาพรบุ๊คส์; 2562. 39 น.
[5] สถาพรบุ๊คส์, ฝ่ายวิชาการ. ทศมินทรราชา มหาวชิราลงกรณ : เสด็จพระราชสมภพ. กรุงเทพฯ: ฝ่ายวิชาการ สถาพรบุ๊คส์; 2562. 39 น.